วิธีตั้งค่าและใช้ ExpressVPN บน Windows 7, 8 หรือ 10

บทช่วยสอนนี้จะแนะนำวิธีการตั้งค่า ExpressVPN เวอร์ชัน 7.x สำหรับ Windows บนพีซีหรือแล็ปท็อปของคุณ

โปรดทราบว่าแอปนี้ต้องใช้ Windows 7, Windows 8 หรือ Windows 10

ดาวน์โหลดแอป

เปิดอีเมลต้อนรับที่คุณได้รับเมื่อลงทะเบียน ExpressVPN คลิกลิงก์ “ตั้งค่า ExpressVPN”

หากคุณไม่พบลิงก์ ให้ลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณ

คลิกปุ่มดาวน์โหลดสีแดง นี่จะเป็นการเริ่มดาวน์โหลดสำหรับแอปของคุณ

อย่าปิดหน้าต่าง คุณจะต้องมีรหัสเปิดใช้งานสำหรับขั้นตอนต่อไป

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

รับรหัสเปิดใช้งานของคุณ

ในการใช้ ExpressVPN บนคอมพิวเตอร์ Windows คุณจะต้องมีรหัสเปิดใช้งาน

มาคัดลอกไปที่คลิปบอร์ดของคุณกันเถอะ

คลิกรหัสเปิดใช้งานในกล่องเพื่อคัดลอกไปยังคลิปบอร์ดของคุณ คุณจะถูกขอให้ระบุในภายหลัง

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

ติดตั้งแอป

ค้นหาและคลิกสองครั้งที่ไฟล์ดาวน์โหลดบนคอมพิวเตอร์ของคุณ

หากคุณเห็นข้อความแจ้งให้ติดตั้งแอป ให้คลิก ติดตั้ง เพื่อดำเนินการต่อ

โปรดรอสักครู่ขณะกำลังติดตั้งแอปบนพีซีของคุณ

เมื่อได้รับแจ้งให้คลิก ลงชื่อเข้าใช้ และวางรหัสเปิดใช้งานของคุณ นี่คือรหัสที่คุณพบก่อนหน้านี้ คุณสามารถวางได้โดยกด Ctrl + V หรือคลิกขวาที่ช่องสี่เหลี่ยมและคลิก วาง จากนั้นคลิก ดำเนินการต่อ

คุณมีตัวเลือกในการเปิดใช้ ExpressVPN เมื่อเริ่มต้น เลือกการตั้งค่าของคุณเพื่อดำเนินการต่อ

คุณสามารถเลือกแชร์การวิเคราะห์เกี่ยวกับการเชื่อมต่อ VPN ของคุณโดยไม่ระบุชื่อ เพื่อช่วยปรับปรุง ExpressVPN เลือกการตั้งค่าของคุณเพื่อดำเนินการต่อ

ExpressVPN จะไม่เก็บสะสมข้อมูลส่วนตัวของคุณและไม่เปิดเผยข้อมูลก่อนที่จะถึงเซิร์ฟเวอร์ ExpressVPN

ขอแสดงความยินดี! ตอนนี้คุณพร้อมที่จะเข้าถึงเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ของ ExpressVPN แล้ว

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

เชื่อมต่อไปยังตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ VPN

หากต้องการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ให้คลิกปุ่มเปิด โดยค่าเริ่มต้น ExpressVPN จะแนะนำตำแหน่งที่ให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ซึ่งเรียกว่าตำแหน่งอัจฉริยะ

เมื่อคุณเห็นข้อความ เชื่อมต่อแล้ว บนหน้าจอแอป คุณสามารถเริ่มท่องโลกออนไลน์ได้อย่างอิสระและปลอดภัย!

หมายเหตุ: ด้วยการสมัครสมาชิกหนึ่งบัญชี คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุดห้าเครื่องกับ VPN ในเวลาเดียวกัน โดยไม่คำนึงถึงแพลตฟอร์ม หากคุณพยายามเชื่อมต่ออุปกรณ์มากกว่าห้าเครื่องพร้อมกันคุณจะเห็นหน้าจอด้านล่าง:

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

ตัดการเชื่อมต่อจากตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ VPN

หากต้องการตัดการเชื่อมต่อจากตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ VPN ให้คลิกปุ่มเปิด ในขณะที่เปิดใช้งาน VPN

คุณจะรู้ว่าคุณถูกตัดการเชื่อมต่อเมื่อหน้าจอแจ้งว่า “ไม่ได้เชื่อมต่อ”

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

เลือกตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ VPN อื่น

หากต้องการเชื่อมต่อไปยังตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์อื่นให้คลิกตัวเลือกตำแหน่งด้านล่างปุ่มเปิด

หมายเหตุ: ครั้งแรกที่คุณพยายามเปลี่ยนตำแหน่งในขณะที่เชื่อมต่อกับ VPN คุณจะได้รับคำเตือนว่าการรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตของคุณอาจไม่ปลอดภัยระหว่างการเชื่อมต่อใหม่ ซึ่งมันปลอดภัยที่จะดำเนินการต่อ

หากต้องการเชื่อมต่อไปยังตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ ให้คลิกมัน จากนั้นคลิกปุ่มเปิด  หรือคุณสามารถเชื่อมต่อได้โดยดับเบิลคลิกที่ตำแหน่ง

ทั้งนี้ในค่าเริ่มต้นรายการตำแหน่ง VPN จะมีสองแท็บ: แนะนำ และ ตำแหน่งทั้งหมด

แท็บแนะนำจะแสดงตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของ ExpressVPN เพื่อให้คุณเชื่อมต่อ

แท็บตำแหน่งทั้งหมดแสดงรายการที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ VPN ตามภูมิภาค คุณสามารถขยายและยุบรายการโดยคลิกที่ไอคอน “>” ทางด้านขวา

แท็บตำแหน่งโปรดจะปรากฏขึ้นเมื่อคุณเพิ่มสถานที่โปรด คุณสามารถบันทึกตำแหน่งไว้ในรายการโปรดได้โดยคลิกที่ไอคอนรูปดาวทางด้านขวา

นอกจากนี้คุณยังสามารถค้นหาตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่คุณต้องการโดยใช้แถบค้นหา

ในแถบค้นหาให้พิมพ์ชื่อที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ที่คุณต้องการ จากนั้นดับเบิลคลิกที่ที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ในผลการค้นหาเพื่อเชื่อมต่อ

หลังจากยกเลิกการเชื่อมต่อจากตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ คุณสามารถกลับไปที่สถานที่อัจฉริยะของคุณ (ตำแหน่งที่แนะนำสำหรับประสบการณ์ที่ดีที่สุด) โดยคลิกที่ตำแหน่งที่ระบุว่าเป็นตำแหน่งอัจฉริยะ

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

สลับโปรโตคอล VPN

โปรโตคอล VPN เป็นวิธีการที่อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN การสลับไปใช้โปรโตคอลอื่นสามารถช่วยให้คุณเชื่อมต่อได้เร็วขึ้น

หากต้องการเปลี่ยนเป็นโปรโตคอลอื่นให้คลิกเมนูแฮมเบอร์เกอร์ (≡) จากนั้นคลิก การตั้งค่า โดยคุณจะต้องตัดการเชื่อมต่อจาก VPN เพื่อเปลี่ยนโปรโตคอล

ในแท็บโปรโตคอล เลือกโปรโตคอลที่คุณต้องการใช้แล้วคลิก ตกลง

หมายเหตุ: L2TP / IPsec ให้ประโยชน์ด้านความปลอดภัยที่ไม่มากนัก และควรใช้งานเพื่อการปกปิดตัวตนและเปลี่ยนตำแหน่งเฉพาะเวลาที่โปรโตคอลอื่นไม่ทำงาน

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

เพิ่มทางลัดไปยังแอป ExpressVPN

คุณลักษณะทางลัดปรากฏขึ้นบนหน้าจอหลักของ ExpressVPN หลังจากที่คุณเชื่อมต่อกับ VPN (ทางลัดของคุณจะไม่ปรากฏขึ้นในครั้งแรกที่คุณเชื่อมต่อ แต่จะปรากฏจากการเชื่อมต่อที่สองของคุณเป็นต้นไป)

ทางลัดช่วยให้คุณสามารถเปิดแอปและเว็บไซต์จาก ExpressVPN ได้โดยตรงอย่างสะดวกและรวดเร็วทุกครั้งที่คุณเชื่อมต่อ หากคุณพบว่าตัวเองเยี่ยมชมสถานที่โปรดจำนวนหนึ่งเป็นประจำหลังจากเชื่อมต่อกับ VPN—เช่น บริการสตรีมมิ่งบางอย่างหรือเครือข่ายสังคม—การเพิ่มมันเป็นทางลัดช่วยให้คุณไม่ต้องเปลี่ยนกลับไปที่หน้าจอหลักหรือเบราว์เซอร์ของอุปกรณ์เพื่อค้นหาทุกครั้ง

ในการเปิดแอปหรือเว็บไซต์ ให้คลิกไอคอนเมื่อเชื่อมต่อกับ VPN

หากคุณมีทางลัดน้อยกว่าห้าตัวเลือกคุณสามารถเพิ่มได้โดยคลิกที่ไอคอนสีเทาบวก (+) คุณสามารถเพิ่มหรือลบทางลัดได้โดยคลิกเมนู แฮมเบอร์เกอร์ (≡) จากนั้นเลือก การตั้งค่า > ทางลัด

คลิกที่เครื่องหมายบวก (+) เพื่อเพิ่มทางลัดสูงสุดไม่เกินห้ารายการ หากต้องการลบทางลัดให้ไฮไลต์ไว้แล้วคลิกเครื่องหมายลบ (-)

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

เรียกใช้และเชื่อมต่อ ExpressVPN เมื่อเริ่มต้น

คุณสามารถกำหนดค่าว่าจะให้ ExpressVPN เชื่อมต่อโดยอัตโนมัติหรือไม่หลังจากที่พีซีเริ่ม

หากต้องการกำหนดการตั้งค่า “เชื่อมต่อเมื่อเริ่มต้นอัตโนมัติ” ให้คลิกที่เมนู แฮมเบอร์เกอร์  (≡) จากนั้นคลิก การตั้งค่า

ในแท็บทั่วไปให้ทำเครื่องหมาย (หรือยกเลิกการเลือก) กล่อง เปิดใช้งาน Express VPN เมื่อ Windows เริ่มทำงาน

คุณยังสามารถกำหนดค่า ExpressVPN เพื่อเชื่อมต่อกับตำแหน่งที่ใช้ล่าสุดเมื่อคุณเปิดแอป

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

ใช้การทดสอบความเร็ว VPN

ในการใช้การทดสอบความเร็ว VPN คุณต้องถูกตัดการเชื่อมต่อจาก VPN

คลิกเมนู แฮมเบอร์เกอร์ (≡) จากนั้นคลิก การทดสอบความเร็ว

บนหน้าจอการทดสอบความเร็วคลิก เริ่มทดสอบ และรอการทดสอบให้เสร็จสมบูรณ์

หลังจากผลลัพธ์ปรากฏขึ้นให้เลือกตำแหน่งโดยใช้เกณฑ์ต่อไปนี้:

• ดัชนีความเร็ว: คำนวณโดยใช้เวลาแฝงและความเร็วในการดาวน์โหลด ตำแหน่งที่มีดัชนีความเร็วสูงกว่าจะให้ประสบการณ์ที่ดีกว่า
• เวลาแฝง: ยิ่งต่ำยิ่งดี
• ความเร็วในการดาวน์โหลด: ยิ่งสูงยิ่งดี

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

ใช้การแยกอุโมงค์

คุณสมบัตินี้ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าแอปใดที่ใช้ VPN และแอปใดที่ไม่ใช้ VPN เมื่อคุณเชื่อมต่อกับ ExpressVPN

หากต้องการเปลี่ยนการตั้งค่าอุโมงค์แยกให้คลิกเมนู แฮมเบอร์เกอร์ (≡) > การตั้งค่า

ในแท็บทั่วไป ให้ทำเครื่องหมายในช่อง การแยกอุโมงค์ แล้วคลิก การตั้งค่า

จากตรงนั้นคุณสามารถตัดสินใจได้ว่าแอปใดของคุณที่จะใช้ VPN และแอปใดจะไม่ใช้ VPN เมื่อคุณเชื่อมต่อกับ ExpressVPN

หากคุณเลือกสองตัวเลือกหลังคุณสามารถระบุแอปที่จะ (ไม่) ใช้ VPN  คลิกที่เครื่องหมายบวก (+) เพื่อเลือกแอป

ทำเครื่องหมายที่ช่องถัดจากแอปทั้งหมดที่คุณต้องการเลือก หากแอปที่คุณต้องการไม่ปรากฏให้คลิก เพิ่มแอปอื่น เพื่อค้นหา

คลิก ตกลง เพื่อยืนยันใช้งานการเปลี่ยนแปลงของคุณ

ข้อมูลเชิงลึก: เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติแยกอุโมงค์

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

ใช้การป้องกันการรั่วไหลของ IPv6

โดยค่าเริ่มต้นแอป ExpressVPN จะบล็อกการเชื่อมต่อ IPv6 เพื่อป้องกันการรั่วไหลของ IPv6

หากคุณประสบปัญหากับอุปกรณ์ที่ใช้การเชื่อมต่อ IPv6 เท่านั้น ให้ไปที่ การตั้งค่า > ขั้นสูง และยกเลิกการทำเครื่องหมายในกล่องภายใต้การป้องกันการรั่วไหลของ IPv6

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

เปลี่ยนภาษาในแอป ExpressVPN Windows

คลิกเมนู แฮมเบอร์เกอร์ (≡) > การตั้งค่า

เลือกแท็บขั้นสูง จากนั้นภายใต้ภาษาให้เลือกภาษาที่คุณต้องการเปลี่ยน

เมื่อได้รับแจ้งคลิกตกลงเพื่อยืนยัน ExpressVPN จะเปลี่ยนเป็นภาษาที่คุณเลือกหลังจากที่คุณปิดแอปและเปิดใช้อีกครั้ง

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

ใช้ส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN

หากคุณใช้เวอร์ชัน 6.2 (หรือใหม่กว่า) ของ ExpressVPN สำหรับ Windows คุณสามารถใช้ส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN เพื่อควบคุมแอป ExpressVPN จากเบราว์เซอร์ของคุณจากระยะไกล ส่วนขยายพร้อมใช้งานสำหรับ Google Chrome และ Mozilla Firefox

จากแอปของคุณ คลิกเมนูแฮมเบอร์เกอร์ (≡) เลือกการตั้งค่า จากนั้นไปที่แท็บเบราว์เซอร์

คลิกรับส่วนขยายเบราว์เซอร์ และทำตามคำแนะนำภายในหน้า

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN ที่นี่

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

ถอนการติดตั้งแอป

หมายเหตุ: คำแนะนำด้านล่างสำหรับ Windows 10 หากคุณใช้ Windows 7 หรือ 8 โปรดดูคำแนะนำในการถอนการติดตั้งโปรแกรมบน Windows 7 และ Windows 8

จากเดสก์ท็อป Windows ของคุณไปที่ การตั้งค่า > แอป

เลื่อนดูรายการโปรแกรมจนกว่าคุณจะพบ ExpressVPN เลือก ExpressVPN แล้วคลิก ถอนการติดตั้ง

หากคุณเห็นว่า ExpressVPN ยังคงแสดงว่าเป็นการเชื่อมต่อ VPN ที่มีอยู่หลังจากถอนการติดตั้ง:

1. คลิกปุ่ม Start แล้วกดปุ่ม Windows + R เพื่อเปิดคำสั่งเรียกใช้
2. พิมพ์ ncpa.cpl บนคำสั่งเรียกใช้แล้วกด Enter เพื่อไปที่หน้าต่างการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ
3. ในหน้าต่างการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณคลิกขวาที่ WAN Miniport ที่มีป้ายกำกับ ExpressVPN
4. คลิก Delete
5. จากเดสก์ท็อป Windows ของคุณไปที่ การตั้งค่า > เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต > VPN
6. ถ้าคุณเห็น ExpressVPN เป็นการเชื่อมต่อที่มีอยู่ให้ลบออก

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน