อัปเดตล่าสุด:

สำหรับการใช้งานแอปของเราและการตั้งค่า โปรด ลงชื่อเข้าใช้บัญชี ExpressVPN ก่อน

สำคัญ: ส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN นี้ไม่สามารถใช้ได้ใน Safari โปรดพิจารณาส่วนขยายของเราสำหรับ Chrome หรือ Firefox แทน

ส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN ช่วยให้คุณสามารถควบคุมแอป ExpressVPN จากเบราว์เซอร์ Chrome และ Firefox จากระยะไกลได้ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยปลอมการระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ HTML5 ของคุณและให้แน่ใจว่าคุณใช้เว็บไซต์ HTTPS รุ่นเข้ารหัสเสมอเมื่อมี

ในการใช้ส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN คุณต้องมี:

  • แอป ExpressVPN Mac (เวอร์ชั่น 7.1 หรือใหม่กว่า) หรือ
  • แอป ExpressVPN Windows (เวอร์ชั่น 6.9 หรือใหม่กว่า) หรือ
  • แอป ExpressVPN Linux (เวอร์ชัน 2.0 หรือใหม่กว่า)

หนึ่งในแอปเหล่านี้จะต้องดาวน์โหลดและเปิดใช้งาน คุณไม่สามารถใช้ส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN หากไม่มีแอป ExpressVPN

หากต้องการดาวน์โหลดแอป ExpressVPN ลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณคลิกตั้งค่า ExpressVPN แล้วดาวน์โหลดแอปของคุณ

ข้ามไปที่…

วิธีรับส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN
คุณสมบัติของส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN
พฤติกรรมของส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN
เปลี่ยนภาษาในส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN
ใช้โหมดมืดในส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN
ข้อผิดพลาดสำหรับส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN
วิธีถอนการติดตั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN

วิธีรับส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN

สำคัญ: ผู้ใช้ Brave และ Vivaldi สามารถติดตั้งและใช้ส่วนขยาย Chrome ในเบราว์เซอร์ของตน เพียงทำตามคำแนะนำด้านล่างและเลือกส่วนขยาย Chrome

ในการดาวน์โหลดส่วนขยายให้เปิดแอปของคุณคลิกเมนู hamburger (≡) เลือก Options จากนั้นไปที่แท็บ Browsers คลิก Get Browser Extensions และทำตามคำแนะนำในหน้า
Click "Get Browser Extensions" in Windows.

ในการดาวน์โหลดส่วนขยายให้เปิดแอปของคุณคลิกเมนู hamburger (≡) เลือกการ Preferences… จากนั้นไปที่แท็บ Browsers คลิก Get Browser Extension และทำตามคำแนะนำในหน้า
Click "Get Browser Extension" in Mac.

ในการดาวน์โหลดส่วนขยาย ให้เรียกใช้หนึ่งในคำสั่งต่อไปนี้:expressvpn install-firefox-extension

expressvpn install-chrome-extensionw

Run Linux command to install the ExpressVPN browser extension.

สำหรับผู้ใช้ที่ติดตั้งเบราว์เซอร์จาก Ubuntu Software Center

หากคุณติดตั้งเว็บเบราว์เซอร์จาก Ubuntu Software Center คุณอาจพบว่าส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN ไม่สามารถสื่อสารกับแอป ExpressVPN Linux ได้ ในการแก้ไขปัญหานี้:

  1. สำรองการตั้งค่าเบราว์เซอร์และบุ๊คมาร์คของคุณ
  2. ไปที่ Ubuntu Software Center และถอนการติดตั้งเบราว์เซอร์ของคุณ
  3. เปิด Terminal
  4. ป้อน $ sudo apt update
  5. ขึ้นอยู่กับเบราว์เซอร์ของคุณ ให้ป้อน $ sudo apt install chromium-browser หรือ $ sudo apt install firefox
  6. เปิดเบราว์เซอร์ของคุณโดยการป้อน$ chromium-browser or $ firefox
  7. รับส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN โดยป้อนexpressvpn install-firefox-extension หรือ expressvpn install-chrome-extension

นี่จะเปิดเบราว์เซอร์ของคุณไปยังหน้าสำหรับดาวน์โหลดส่วนขยาย คลิก Get Extension เพื่อดำเนินการต่อ

Click "Get Extension."

สำคัญ: หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง Google Chrome หรือ Mozilla Firefox โปรดดาวน์โหลดและตั้งค่าเบราว์เซอร์ก่อน คุณสามารถติดตามลิงก์จากแอปเพื่อรับเบราว์เซอร์

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

คุณสมบัติของส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN

  • เชื่อมต่อและตัดการเชื่อมต่อจาก VPN สิ่งนี้มีผลต่อปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตสำหรับแอปทั้งหมดของคุณ ไม่ใช่แค่เบราว์เซอร์ของคุณเท่านั้น
  • เปลี่ยนตำแหน่ง VPN:
    • หากต้องการเลือกตำแหน่ง VPN อื่นให้คลิก Location Picker ที่ด้านล่าง On Button
      Click "Location Picker."
    • เชื่อมต่อกับตำแหน่งที่ดีที่สุดที่แนะนำสำหรับคุณคลิก Smart Location.
      Click "Smart Location."
    • เลือกจากสถานที่ Recommended ภายในส่วนขยาย
      Click "Recommended."
    • คลิก All Locations เพื่อดูรายการตำแหน่ง VPN ที่มีอยู่ทั้งหมด นอกจากนี้คุณยังสามารถค้นหาตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจง ตรวจสอบตำแหน่งที่เชื่อมต่อล่าสุดของคุณ และดูตำแหน่งทั้งหมดที่คุณทำเครื่องหมายเป็นรายการโปรดในแอป ExpressVPN
      Click "All Locations."
  • ดูสถานะ VPN ของคุณได้อย่างรวดเร็วในแถบเครื่องมือเบราว์เซอร์: สีส้มขณะเชื่อมต่อ สีเขียวเมื่อเชื่อมต่อแล้ว และสีเทาเพื่อหาข้อผิดพลาด
    Different connection states of the ExpressVPN browser extension.
  • เชื่อมต่ออัตโนมัติเมื่อเบราว์เซอร์ของคุณเริ่มต้นไปยังตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ VPN ล่าสุดที่คุณใช้งานสำเร็จ ในการเปิดคุณสมบัตินี้ให้คลิกไอคอน ExpressVPN ในแถบเครื่องมือคลิกเมนู hamburger (≡) คลิก Settings และเลื่อนเปิด Connect on browser launch
    Different connection states of the ExpressVPN browser extension.
  • เข้าถึงคุณลักษณะความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเพิ่มเติม ในการใช้คุณสมบัติเหล่านี้ให้คลิกไอคอน ExpressVPN ในแถบเครื่องมือคลิกเมนู hamburger (≡) และคลิก Privacy & Security
    Privacy and security features of the ExpressVPN browser extension.
  • หลอกตำแหน่งของคุณ (ไม่จำเป็น) วิธีนี้ป้องกันไม่ให้ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ HTML5 เปิดเผยตำแหน่งทางกายภาพของคุณเมื่อเชื่อมต่อ VPN
  • บล็อก WebRTC (ไม่จำเป็น) วิธีนี้จะปิดกั้นที่อยู่ IP ของคุณจากการรั่วไหลของ WebRTC และทำให้มั่นใจได้ว่า Chrome และ Firefox จะใช้เส้นทางเครือข่ายเดียวกันสำหรับสื่อเช่นเดียวกับการเข้าชมเว็บปกติ
  • HTTPS ทุกที่ (ไม่จำเป็น) ฟีเจอร์นี้ขับเคลื่อนโดย Electronic Frontier Foundation เชื่อมต่อคุณกับเว็บไซต์ HTTPS ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นโดยอัตโนมัติหากมี

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

พฤติกรรมของส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN

พฤติกรรมของส่วนขยายเบราว์เซอร์ ภาพรวมของการทำงานของส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN ในสถานะต่างๆ:

  • หากทั้งแอป ExpressVPN และเบราว์เซอร์ที่ติดตั้งส่วนขยาย ExpressVPN กำลังทำงานอยู่และแสดงว่าคุณเชื่อมต่อกับ VPN การยกเลิกการเชื่อมต่อ VPN จากแอป ExpressVPN หรือเบราว์เซอร์จะตัดการเชื่อมต่อ VPN ทั้งในแอป ExpressVPN และเบราว์เซอร์
  • หากทั้งแอป ExpressVPN และเบราว์เซอร์ที่ติดตั้งส่วนขยาย ExpressVPN กำลังทำงานอยู่และแสดงว่าคุณเชื่อมต่อกับ VPN การเลิกใช้แอป ExpressVPN จะเป็นการตัดการเชื่อมต่อ VPN
  • หากทั้งแอป ExpressVPN และเบราว์เซอร์ที่ติดตั้งส่วนขยาย ExpressVPN กำลังทำงานอยู่และแสดงว่าคุณเชื่อมต่อกับ VPN การเลิกใช้เบราว์เซอร์จะไม่ตัดการเชื่อมต่อ VPN
  • หากมีเพียงแอป ExpressVPN เท่านั้นที่กำลังทำงานการออกจากแอป ExpressVPN จะตัดการเชื่อมต่อ VPN

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

เปลี่ยนภาษาในส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN

  1. คลิกที่ไอคอน ExpressVPN ในแถบเครื่องมือ
  2. คลิกเมนู hamburger (≡)
    Click the hamburger menu in the ExpressVPN browser extension.
  3. เลือก Settings
    Click "Settings."
  4. ภายใต้ Display preferences > Language เลือกภาษาที่คุณต้องการเปลี่ยน
    Change language under "Display preferences."

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

ใช้โหมดมืดในส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN

ตอนนี้ชุดรูปแบบสีเข้มมีให้บริการในส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN สำหรับ Chrome และ Firefox

หากระบบปฏิบัติการของคุณถูกตั้งค่าเป็นโหมดมืดคุณไม่ต้องทำอะไรเลย – ส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN ของคุณจะจับคู่โดยอัตโนมัติโดยใช้โหมดมืด

หากต้องการเปิดใช้งานโหมดมืดด้วยตนเองในส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN ของคุณ:

  1. คลิกที่ไอคอน ExpressVPN ในแถบเครื่องมือ
  2. เลือกเมนู hamburger  (≡)
  3. เลือก Settings ภายใต้ Display preferences > Display mode เลือก Dark
  4. หากต้องการกลับไปที่การตั้งค่าเริ่มต้นที่จะจับคู่ธีมของระบบปฏิบัติการของคุณโดยอัตโนมัติ ให้เลือก Match Device Settings หากต้องการป้องกันโหมดมืดไม่ให้เปิดใช้งานไม่ว่าในกรณีใดก็ตามให้เลือก Light
    Change Display mode under Display preferences.

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

ข้อผิดพลาดสำหรับส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN

นี่เป็นข้อผิดพลาดทั่วไปบางประการที่คุณอาจพบขณะใช้ส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN ดูข้อผิดพลาดและขั้นตอนการแก้ปัญหาด้านล่าง:

การเชื่อมต่อล้มเหลว

A screen that shows connected failed in the ExpressVPN browser extension.

วิธีแก้ไข: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคอมพิวเตอร์ของคุณเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต คุณสามารถทดสอบสิ่งนี้ได้โดยออกจาก ExpressVPN และพยายามเข้าถึงอินเทอร์เน็ต

ส่วนขยายนี้ต้องใช้แอป Mac / Windows / Linux

A screen that shows the ExpressVPN app is not installed.

วิธีแก้ไข: ดาวน์โหลดและติดตั้งแอพ Mac, Windows หรือ Linux เวอร์ชันล่าสุด หากคุณยังคงเห็นข้อความนี้หลังจากติดตั้งแอปในคอมพิวเตอร์ของคุณ โปรดติดต่อฝ่ายสนับสนุน

จำเป็นต้องเปิดแอป ExpressVPN

A screen that shows the ExpressVPN app is not open.

วิธีแก้ปัญหา: เปิดแอป ExpressVPN บนคอมพิวเตอร์ของคุณ หลังจากเปิดแอปคุณสามารถควบคุมแอพผ่านทางส่วนขยายเบราว์เซอร์

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

วิธีถอนการติดตั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN

หากต้องการถอนการติดตั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN ให้ทำตามขั้นตอนเฉพาะของเบราว์เซอร์ด้านล่าง:

Chrome

  1. คลิกจุดไข่ปลาแนวตั้ง (⋮) > More tools > Extensions
  2. ค้นหาส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN และคลิกไอคอน Trash Can ทางด้านขวา

Firefox

  1. คลิกเมนู hamburger (≡) > Add-ons
  2. ในแท็บ “Add-ons Manager” เลือก Extensions หรือ Themes
  3. ค้นหาส่วนขยายเบราว์เซอร์ ExpressVPN และคลิก Remove
  4. คลิก Restart now หากได้รับแจ้ง

ต้องการความช่วยเหลือ? ติดต่อทีมสนับสนุน ExpressVPN เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

กลับไปด้านบน

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?

เราเสียใจที่ได้ยินเรื่องนี้ โปรดบอกให้เราทราบว่าควรปรับปรุงอย่างไร

Which web browser do you need help with?

Examples: Chrome, Firefox, Edge

เจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนของเราจะติดต่อกลับเพื่อช่วยแก้ปัญหาของคุณ